ใกล้จะหมดปี 2019 แล้วหลายๆคนกำลังมองหาธุรกิจใหม่ๆ ไม่ว่าจะเริ่มต้นหรือกำลังขยายธุรกิจ ต้องให้ความสนใจกับการสร้างแบรนด์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในปีหน้า การวางกลยุทธ์ทางธุรกิจจึงมีความสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างราบรื่น การสร้างแบรนด์หรือทำธุรกิจในสมัยก่อน เราคงเคยได้ยินคำว่า “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” แต่ยุคที่ผ่านมาเป็นยุคของ “ปลาเร็วกินปลาช้า” แต่ปีหน้า 2020 ต้องบอกเลยว่าเป็นยุคของ “ปลาที่ใช่” เท่านั้น
หากคุณเป็นคนสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง คุณก็ไม่ต่างอะไรกับปลาที่ว่ายอยู่ในมหาสมุทรสีแดง ( RED OCEAN ) ที่มีการแข่งขันสูงมาก และคนสร้างแบรนด์เครื่องสำอางก็มีมากขึ้นทุกวัน เพราะ Demand หรือความต้องการผู้บริโภคก็มีมากขึ้นเช่นกัน แต่เมื่ออยู่ในน่านน้ำสีแดงจะสู้ด้วยกลยุทธ์เก่าๆ อย่างปลาใหญ่หรือปลาเร็วก็อาจจะไม่ได้ผลเหมือนก่อนแล้ว (อ่านเพิ่มเติมเรื่องกลยุทธ์น่านน้ำสีแดงได้ที่นี่ คลิก )
สร้างแบรนด์ปลาที่ใช่คืออะไร?
สมัยก่อนใครมีทุนหนา ทรัพยากรเยอะ จะได้เปรียบเสมือนปลาใหญ่ที่ว่ายน้ำได้อย่างสง่างามท่ามกลางปลาเล็กหรือธุรกิจที่มีทุนน้อย สายป่านสั้น โดนกินเอาง่าย ต่อมาเป็นยุคของปลาไว ที่ธุรกิจไหนมองเห็นโอกาส แล้วปรับตัวก่อน สามารถสร้างความได้เปรียบก่อน จะเอาชนะปลาช้าได้ แต่เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้เกิดพฤติกรรมผู้บริโภคที่เรียกว่า Personalized ที่แต่ละคนมีความต้องการเฉพาะบุคคลไม่เหมือนกัน พฤติกรรมนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการเข้าถึงสื่อต่างๆได้ง่ายขึ้นตามเทคโนโลยีต่างๆที่เกิดใหม่ทุกวัน
ปี 2020 จึงเป็นยุคของ ”ปลาที่ใช่” คือปลาที่สร้างแบรนด์แล้วตอบโจทย์และมอบสิ่งที่ต้องการได้อย่างตรงจุด ไม่ใช่ขนาดหรือความเร็วอย่างแต่ก่อน
ทำอย่างไรถึงจะสร้างแบรนด์เป็น “ปลาที่ใช่”
หากคิดจะสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง คุณต้องเป็น “ปลาที่ใช่” ประกอบด้วยองค์ประกอบ 5 อย่าง คือ
- คนที่ใช่
ปลาที่ใช่ต้องว่ายหากลุ่มเป้าหมายที่ใช่ เพื่อให้คนกลุ่มนั้นเป็นลูกค้า คุณต้องชัดเจนว่าจะขายใคร สร้างแบรนด์เครื่องสำอางเหมาะกับคนกลุ่มไหน เช่น หากคุณกำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป อาจจะเลือกขายสินค้าลดเลือนริ้วรอยและโฆษณาไปยังคนกลุ่มนี้ เพื่อให้คนพบเห็นสินค้าคุณได้มากที่สุด ไม่ใช่ขายสินค้าลดริ้วรอยและโฆษณากับกลุ่มวัยรุ่น 18-25 ปี
- สินค้าที่ใช่
ปลาที่ใช่ต้องครอบครองสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค สามารถมอบความสะดวกสบายและความต้องการ สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด ไม่ใช่ผลิตเครื่องสำอางออกมาเพื่อเป็น Mass Product ที่ขายใครก็ได้ แต่ต้องเป็น Niche Product ที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการจริงๆ ถ้าในมุมของคนสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง คุณต้องมีสินค้าที่แตกต่าง ตอบโจทย์ และแบรนด์อื่นไม่มีเหมือนคุณ
- วัตถุประสงค์ที่ใช่
ปัจจุบันผู้บริโภคไม่ได้ซื้อสินค้าด้วยเหตุผลเท่านั้น เรื่องอารมณ์และความรู้สึกก็มีผลอย่างมากในการตัดสินใจซื้อ สิ่งที่อยากจะบอกสำหรับคนสร้างแบรนด์เครื่องสำอางก็คือ คุณต้องสร้างอัตลักษณ์ตัวตน แสดงออกถึง “Brand Idea” ให้ชัดเจน ทำให้ผู้ซื้อรู้สึกเป็นอยากเป็นส่วนหนึ่งในไอเดียของคุณ อยากมีภาพลักษณ์เหมือนที่แบรนด์คุณแสดงออกมา เป็นสิ่งที่ตัวเองอยากมีส่วนร่วมด้วย คุณลองสังเกตว่าทำให้แบรนด์ดังๆอย่าง IKEA จึงมีลูกค้าแตกต่างจากร้านเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป เพราะผู้บริโภคอยากมีส่วนร่วมกับไอเดียการออกแบบ ตามบุคลิกและภาพลักษณ์ของแบรนด์นั่นเอง
- สถานที่ที่ใช่
คุณต้องนำสินค้าของคุณไปโปรโมทยังที่ที่กลุ่มเป้าหมายคุณอยู่ และจำหน่ายสินค้าได้ในที่ที่ลูกค้าสะดวก โดยต้องศึกษาทั้งด้านออนไลน์และออฟไลน์ และทำทั้ง 2 ทาง เพราะปัจจุบันไม่มีเส้นกั้นระหว่าง 2 ทางนี้แล้ว ช่องทางเชื่อมกันอย่างตัดขาดไม่ได้อีกต่อไป โดยเลือกโปรโมทสินค้าในที่ที่ลูกค้าใช้บริการเป็นประจำ เช่น หากสร้างแบรนด์เครื่องสำอางสำหรับเด็ก คุณอาจจะเลือกโปรโมทออนไลน์ผ่านเว็ปไซต์เกี่ยวกับแม่และเด็ก และออกบูธแสดงสินค้างานสำหรับแม่และเด็ก เป็นต้น
- เวลาที่ใช่
หากเคยศึกษาด้านการตลาดมาก่อน คงจะรู้จักกับคำว่า Customer Journey คือระยะทางของลูกค้าตั้งแต่รู้จักแบรนด์ของคุณจนถึงตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณ หากเราสร้างแบรนด์เครื่องสำอางแล้วต้องการให้เป็นที่รู้จัก คุณต้องทำสื่อโฆษณาเพื่อ Awareness และเพิ่มความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ในเวลาต่อมา ปิดท้ายด้วยข้อเสนอหรือโปรโมชั่นต่างๆเพื่อปิดการขายหรือทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ ในเวลาที่เหมาะเจาะ เช่น ช่วงเงินเดือนออก ช่วงโบนัสออก หรือ โปรโมชั่นช่วงเทศกาลที่ทำให้คนตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น เป็นต้น
ยุคที่”ปลาที่ใช่” กำลังจะมา คนสร้างแบรนด์เครื่องสำอางต้องเตรียมความพร้อมก่อนปี 2020 ลองเขียนองค์ประกอบ 5 อย่างดังกล่าวออกมา ว่าแบรนด์ของคุณที่มีองค์ประกอบเหล่านี้ครบหรือยัง หากยังไม่ครบ คุณต้องเติมเต็มเพื่อให้แบรนด์ของคุณเป็น”ปลาที่ใช่”ในน่านน้ำวงการทำแบรนด์เครื่องสำอางค่ะ
Writen by Jaruda S.
ขอบคุณภาพจาก shutterstock