กลยุทธ์น่านน้ำสีแดง หรือ Red Ocean Strategy คือ การแข่งขันทำการตลาดแบบเน้น “ราคา” เป็นหลัก เรียกได้ว่าเป็นกลยุทธ์ที่เปรียบเสมือนมีปลาตัวเดียวในน่านน้ำทะเล แต่เบ็ดตกปลานั้นมีมากมายเหลือเกิน คำว่า ธุรกิจเครื่องสำอาง ถือว่าเป็นธุรกิจประเภท Red Ocean แบบไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ
เพราะนับวันยิ่งมีแบรนด์เครื่องสำอางใหม่ๆเกิดขึ้นตลอดเวลา แต่ก็ต้องยอมรับค่ะว่าธุรกิจเครื่องสำอางเติบโตเร็วจริงๆในปัจจุบันนี้ ทำให้กลยุทธ์น่านน้ำสีแดงนี้ต้องเน้นการแข่งขันกันที่ราคาเพื่อดึงลูกค้าให้อยู่กับแบรนด์หรือเลือกแบรนด์มากที่สุด
วันนี้แอดมินจะมาพูดถึงกลยุทธ์น่านน้ำสีแดงและวิธีเอาตัวรอดจากสงครามทะเลเดือดนี้ว่าเราควรเหวี่ยงกลยุทธ์แบบไหนในสงครามการตลาดนี้ และต้องทำอย่างไรลูกค้าถึงจะเลือกแบรนด์ของเรา เรามีคำตอบมาให้ทุกท่านแล้วค่ะ
ทำไม Red Ocean Strategy ถึงเป็นกลยุทธ์ที่ถูกเลือก
กลยุทธ์น่านน้ำสีแดง เปรียบเสมือน สนามรบที่มีการแข่งขันกันอย่างสมบูรณ์แบบ การต่อสู้รุนแรงจนต่างฝ่ายต่างเสียเลือดเนื้อมากมายจนทะเลกลายเป็นสีแดง
ในเรื่องของธุรกิจเครื่องสำอาง 100% มันคือสนามรบทะเลแดงเดือดนี้อย่างแน่นอน เพราะเป็นกลยุทธ์ที่เหมือนจะเล่นง่าย แต่เอาจริงๆแล้วมันไม่ง่ายอย่างที่ทุกคนคิดและเข้าใจกันเลยค่ะ เพราะกลยุทธ์แบบ Red Ocean นั้นเป็นกลยุทธ์แบบตอนแรกผู้ลงทุนจะทำธุรกิจออกมาได้ดี ได้กำไรที่มากกว่าปกติ แต่เมื่อผู้อื่นเห็นว่าตนเองก็น่าจะมีโอกาสในธุรกิจเดียวกันแบบผู้ลงทุนบ้างก็จะเริ่มหันมาทำธุรกิจประเภทเดียวกัน ทำให้ตัวของผู้ลงทุนเองต้องเกิดการแข่งขันกับผู้อื่นที่มาลงทุนในธุรกิจแบบเดียวกัน เช่น ลดราคาสินค้าลงเพื่อรักษาส่วนแบ่งไว้ เป็นต้น
เพราะคนส่วนมากมองผู้อื่นที่ทำธุรกิจเครื่องสำอางเขาประสบความสำเร็จง่าย และคิดว่าตนเองก็สามารถทำได้เช่นกัน จึงไม่แปลกเลยค่ะว่าทำไมธุรกิจเครื่องสำอางใครๆก็เป็นเจ้าของแบรนด์ได้ แต่!!..การรักษาธุรกิจให้อยู่ใน Red Ocean ได้นั้นขอบอกเลยค่ะว่ายากมากสำหรับมือใหม่ที่ไม่มีความรู้เรื่องกลยุทธ์ทางการตลาดเลย
ยืนหนึ่งใน Red Ocean อย่างไรให้เหนือกว่าคู่แข่ง
Red Ocean Strategy : Repeatability & Scalability
กลยุทธ์น่านน้ำสีแดง : ทำซ้ำได้ และ ขยาย(ยืดหยุ่น)ได้
ในการทำธุรกิจเครื่องสำอางใครๆก็สามารถเป็นเจ้าของแบรนด์ได้เพราะแค่มีเงินลงทุนก็สามารถทำได้เลย แต่ ถ้าอยากหากอยากยืนหนึ่งในวงการเครื่องสำอางต้องใช้หลัก Repeatability & Scalability คือ ทำซ้ำและขยายได้ นั่นเอง
Repeatability
การทำซ้ำ หมายถึง การที่เราผลิตสินค้าเหมือนกันกับแบรนด์อื่น แต่สินค้าของเรามีความโดดเด่นและแตกต่างมากกว่าแบรนด์ เช่น สารสกัดนำเข้าจากต่างประเทศ หรือ สารสกัดที่แปลกใหม่ เป็นต้น ซึ่งจุดนี้คือจุดขายที่สามารถทำให้ธุรกิจเติบโตได้ด้วยกลยุทธ์แบบ Red Ocean
Scalability
การยืดหยุ่นหรือขยายได้ หมายถึง การที่เราทำสินค้าเหมือนกันกับแบรนด์อื่นนี่แหล่ะค่ะ แต่เราขยายความพิเศษของสินค้าของเราออกไปให้มันแตกต่างและตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เช่น สร้างแบรนด์ลิปสติกที่สามารถสวยได้ในแท่งเดียว ผลิตครีมที่สามารถทาบำรุงและพอกหน้าแบบ sleeping mask ได้ด้วย เป็นต้น
นอกจากนี้สามารถใช้การตลาดอื่นๆทำให้แตกต่างได้ในเรื่องของการขนส่ง หรือ การจัดโปรโมชั่น แบบที่ไม่ต้องลดราคาคุณภาพของสินค้า เช่น หากมีสินค้าของแบรนด์อยู่ 2 รายการ ลองจัดโปรโมชั่น ซื้อสินค้ารายการ A แถมสินค้ารายการ B ขนาดทดลองให้ใช้ฟรี เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าและโปรโมทสินค้าอีกรายการไปในตัว เป็นต้น
เห็นไหมคะทุกท่านว่าเราสามารถสร้างแบรนด์ครีมหรือแบรนด์เครื่องสำอางได้ เพียงแค่รู้หลักการอยู่ในกลยุทธ์น่านน้ำสีแดงว่าเราต้องทำการตลาดแบบไหนจูงใจให้คนเลือกที่จะอยู่กับแบรนด์ของเราและซื้อสินค้าของเราไปตลอดแบบไม่นอกใจแบรนด์ของเราเลย ลองเอาวิธีเหล่านี้ที่แนะนำไปปรับประยุกต์ใช้กันได้ตามถนัดเลยนะคะ ส่วนใครที่ยังไม่มีแบรนด์เครื่องสำอางแต่กำลังอยากสร้างแบรนด์ ขอบอกเลยค่ะว่าไม่ต้องกลัวการลงทุนในทะเลสีแดง เพียงแค่อ่านบทความนี้แล้วลองเริ่มต้นที่จะทำ เชื่อได้เลยค่ะว่าความสำเร็จอยู่ไม่เกินเอื้อมแน่นอน
หากอยากได้ที่ปรึกษาในเรื่องของผลิตภัณฑ์และเรื่องของการสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง ติดต่อสอบถามที่ https://line.me/R/ti/p/%40lay6691l
Written By : Kanyapat P.
Photo By : Shutterstock